ความหายนะใหญ่ที่สุดในสมัยของเราคืออะไร
พาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์วิทยุหรือโทรทัศน์ เตือนเราบ่อยมากว่า โลกของเราไม่สมบูรณ์ ความรุนแรงและความอยุติธรรมพร้อมกับความวุ่นวายและปัญหาของสังคม ทำให้เรามักจะครวญง่าย แต่ก่อนที่เราจะกล่าวโทษคนอื่น เราควรจะหาข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริง ในพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า เหตุฉะนั้น เช่นเดียวกับที่บาปได้เข้ามาในโลกเพราะคนๆ เดียว และความตายก็เกิดมาเพราะบาปนั้น และความตายก็ได้แผ่ไปถึงมวลมนุษย์ทุกคน เพราะมนุษย์ทุกคนทำบาป (โรม 5.12)
พระเจ้าตรัสข้อห้ามข้อเดียวเท่านั้น
บรรพบุรุษของเรา คือมนุษย์คู่แรกที่มีชื่ออาดัมกับเอวา ได้ดำเนินชีวิตด้วยมีเสรีภาพอย่างมาก พระเจ้าจึงทรงบัญชาแก่มนุษย์นั้นว่า “บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้ เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่ว ผลของต้นไม้นั้นอย่ากิน เพราะในวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่” (ปฐมกาล 2.16-17) ดังนั้นพระเจ้าได้ทรงพิสูจน์ว่า มนุษย์เราจะตอบรับการไว้วางใจของพระองค์ และเราสมควรจะมีเสรีภาพนั้นหรือไม่ แต่มารซาตานได้มาหลอกลวงเอวาไม่ให้เชื่อวางใจในพระคำของพระเจ้า และให้ต่อต้านพระเจ้า เมื่อหญิงนั้นเห็นว่า ต้นไม้นั้นน่ากิน และน่าดูด้วย ทั้งเป็นต้นไม้ที่มุ่งหมายจะให้เกิดปัญญา จึงเก็บผลไม้นั้นมากิน แล้วส่งให้สามีกินด้วย เขาก็กิน (ปฐมกาล 3.6)
บัดนั้นความบาปได้เข้ามาในโลก
ด้วยการตั้งใจที่จะไม่เชื่อฟังอาดัมกับเอวาแยกออกจากพระเจ้า ทันใดนั้นมีกำแพงอยู่ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ แทนที่จะรักพระเจ้า เขาเริ่มกลัวพระองค์ เวลาเย็นวันนั้น เขาทั้งสองได้ยินเสียงพระเจ้าเสด็จดำเนินอยู่ในสวน ชายนั้นกับภรรยาก็หลบไปซ่อนตัวอยู่ในหมู่ต้นไม้ในสวนนั้น ให้พ้นจากพระพักตร์พระเจ้า (ปฐมกาล 3.8) แทนที่จะรู้สึกปลอดภัย สบายใจและมีความสุข เขาทั้งสองรู้สึกสำนึกผิดและกลัวเพราะบาปของเขา
ผลคือความแตกแยก
พระเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ความสัมพันธ์กับพระองค์จะขาด ถ้าหากว่ามนุษย์จะไม่เชื่อฟัง ก็ได้เป็นอย่างนั้น มนุษย์จึงถูกแยกจากพระเจ้าในบัดมหาโหดนั้น และเป็นคนที่ตายฝ่ายวิญญาณ ตั้งแต่นั้นมาความตายก็คือผลสุดท้ายแห่งชีวิตของมนุษย์ ไม่เพียงแค่นี้ ความบาปและความแตกแยกสืบต่อจากอาดัมและเอวาลงมายังพวกเราในสมัยนี้ด้วย เหตุฉะนั้น เช่นเดียวกับที่บาปได้เข้ามาในโลกเพราะคนๆ เดียว และความตายก็เกิดมาเพราะบาปนั้น และความตายก็ได้แผ่ไปถึงมวลมนุษย์ทุกคน เพราะมนุษย์ทุกคนทำบาป (โรม 5.12) คำสำคัญก็คือคำว่า ทุกคน รวมถึงพวกเราทั้งหลายด้วย เราทุกคนเป็นคนบาปและจะต้องตาย ถ้าเราทั้งหลายจะว่าเราไม่มีบาป เราก็ลวงตนเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในเราเลย (1 ยอห์น 1.8) ชีวิตของเรารับรองความจริงนั้นว่า คำสอนของพระคัมภีร์ถูกต้อง
เราดำเนินชีวิตอย่างที่ชอบพระทัยหรือไม่
ท่านประกอบด้วยความรัความสัตย์ซื่อและมีใจกว้างตลอดเวลาไหม คือท่านไม่มีความบาปเลยหรือ พระเจ้าทรงรู้คำตอบในคำถามเหล่านี้ และถ้าท่านยอมรับความจริง ท่านก็รู้คำตอบด้วย เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า (โรม 3.23) มนุษย์ทุกคนเป็นคนบาปตั้งแต่เเรกเกิด เป็นธรรมชาติของเรา และเป็นผลแห่งการตั้งใจและการกระทำด้วย ท่านก็ควรยอมรับความจริงนี้และผลที่ติดตามมา
ท่านสามารถดาวน์โหลดทั้ง 12 บทเรียน ในฟอรแม็ต PDF โดยปราสจากค่าใช้จ่าย